| 
							 พระยอดขุนพลเสมาตัด เนื้อชิน กรุอาวาสน้อย กำแพงเพชร มีติดรางวัล 
							 | 
					||||||||||||||||
							
							 
							
							 
								
								 
								
								 
								
								 
								
								 | 
					||||||||||||||||
                        ![]()   ส่งข้อความ     
				 | 
				||||||||||||||||
								ชื่อร้านค้า
							  | 
							มะกะระ พระกรุ | |||||||||||||||
								โดย
							  | 
							makara995 | |||||||||||||||
									ประเภทพระเครื่อง
								  | 
								พระติดรางวัล | |||||||||||||||
									ชื่อพระ
								  | 
								พระยอดขุนพลเสมาตัด เนื้อชิน กรุอาวาสน้อย กำแพงเพชร มีติดรางวัล  | 
							|||||||||||||||
									รายละเอียด
								  | 
								พระยอดขุนพลเสมาตัด จ.กำแพงเพชร พระเครื่องที่ได้ชื่อว่า "ยอดขุนพล" มีอยู่ 3 เมืองที่โด่งดังมาแต่ในอดีต คือ พระยอดขุนพลชากังราว หรือ พระยอดขุนพลกำแพงเพชร พระยอดขุนพลอโยธยา (อยุธยา) และ พระยอดขุนพลกรุงละโว้ (ลพบุรี) "เชียร ธีรศานต์" นักพระเครื่องอาวุโส และเป็นนักเขียนยุคแรกที่นำเรื่องราวของพระกรุเก่าต่าง ๆ มาลงพิมพ์เผยแพร่ จนกลายเป็นตำนานการจัดพิมพ์นิตยสารพระเครื่องมาจนถึงทุกวันนี้ ได้เคยเขียนถึง "พระยอดขุนพลชากังราว" นี้ว่า สมัยก่อนชาวบ้านเมืองกำแพงเพชรเรียกพระพิมพ์นี้ว่า "พระกำแพงเสมาตัด" เป็นพระพิมพ์หนึ่งที่แตกมาจากกรุทุ่งเศรษฐี ของเมืองกำแพงเพชร การเรียกชื่อ "พระกำแพงเสมาตัด" ทำให้พระพิมพ์นี้ไม่เป็นที่น่าสนใจนัก ต่อมาวงการพระเครื่องทางกรุงเทพฯได้เรียกชื่อพระพิมพ์นี้เสียใหม่ว่า "พระยอดขุนพลชากังราว" หรือ "พระยอดขุนพลกำแพงเพชร" ทำให้รู้สึกว่าเป็นพระเครื่องที่น่าใช้ โดยเฉพาะบรรดาทหารหาญ นายตำรวจ ผู้นำทางธุรกิจ และชายชาตรีที่ชอบทางบู๊ เพราะชื่อ "ยอดขุนพล" เป็นจุดเด่นทางด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ปลอดภัย จึงเกิดการแสวงหาพระพิมพ์นี้กันมากขึ้น ทำให้ราคาพระค่อย ๆ แพงขึ้นด้วย ตามประวัติศาสตร์ "เมืองชากังราว" เป็นเมืองในอดีตที่ความเจริญรุ่งเรืองมากเมืองหนึ่ง ตั้งอยู่ในเมืองกำแพงเพชร แต่ไม่ทราบว่าอยู่ตรงส่วนไหน ฝั่งตะวันออกหรือฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง ความเจริญนั้นอย่างน้อยก็อยู่ในยุคเชียงแสนหรือสุโขทัยช่วงที่รุ่งเรืองมาก ๆ พระเครื่องที่เชื่อว่าสร้างในสมัยชากังราวแน่นอนก็คือ พระกำแพงซุ้มกอดำ ไม่มีกนก พิมพ์ใหญ่ ซึ่งพบทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง ซึ่งก็คือ "ฝั่งทุ่งเศรษฐี" นั่นเอง พระเครื่องที่แตกกรุฝั่งนี้จะมีความเก่ากว่าและแพงกว่าฝั่งตรงกันข้าม อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้สันนิษฐานกันว่า "เมืองชากังราว" อาจจะมีทั้ง 2 ฝั่ง โดยมีแม่น้ำปิงไหลผ่านกลางเมืองก็ได้ ตามสภาพทางภูมิศาสตร์ ที่ดินโดยรอบเมืองกำแพงเพชร ล้วนเป็นสถานที่ตั้งวัดวาอารามมาแต่ในสมัยโบราณทั้งสิ้น เมื่อได้กลายเป็นที่ดินเอกชนในปัจจุบัน จึงไม่น่าแปลกใจที่บางครั้งชาวบ้านได้พัฒนาผืนดินเพื่อการเกษตร ขุดไปขุดมาไปพบ "กรุพระ" เข้าก็ได้ ต่อมาชาวบ้านไม่ได้คิดจะขุดดินเพื่อการเกษตรเสียแล้ว แต่กลับเป็น "ขุดดินเพื่อค้นหาพระเครื่อง" โดยตรงไปเลยก็มี เมื่อเดือนมิถุนายน 2524 มีการขุดพบ "พระยอดขุนพล" ในบริเวณเดียวกับ พระกำแพงซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ ไม่มีกนก และมีกนก ซึ่งอาจจะมีการขุดพบในบริเวณอื่น ๆ อีกก็ได้ พระยอดขุนพลชากังราว นี้จะมีทั้ง เนื้อดิน และ เนื้อชิน สมัยก่อนไม่ค่อยมีราคา เพราะองค์พระมีขนาดใหญ่เกินไป ใช้เนื้อมวลสารมากเกินไป ทำให้องค์พระหนามาก เทอะทะ และการกดพิมพ์ไม่ลึกชัดมาก ทำให้ภาพขององค์พระเป็นแบบพิมพ์ตื้น ไม่ชัดเจนนัก เหตุผลอีกประการหนึ่งคือ จำนวนพระมีน้อย พบเห็นได้ยาก ในขณะที่มีพระเครื่องพิมพ์อื่น ๆ สามารถหาได้ง่ายกว่ากัน และมีขนาดกะทัดรัด สะดวกต่อการเลี่ยมและคล้องคอ ผู้คนจึงหันไปสนใจพระกำแพงพิมพ์อื่น ๆ แทน แต่...ในปัจจุบันมี พระปลอม ออกมามาก ไม่ว่าจะเป็นพระพิมพ์ใดกรุใดก็ตาม ทำให้นักสะสมบางคนหันมาให้ความสนใจในพระพิมพ์นี้แทน จึงทำให้พระพิมพ์นี้มีค่าราคาแพงขึ้นดังกล่าว คำว่า "พระยอดขุนพล" ดูออกจะเหมาะสมกับพระพิมพ์นี้ ซึ่งสร้างล้อเลียน พระสมัยลพบุรี คือแบบเขมรผมหวี ที่เชื่อกันว่าเป็น พระเครื่องทางอำนาจ และ คงกระพันชาตรีสูง เหมาะอย่างยิ่งกับทหาร ตำรวจ ชายชาตรี และนักบู๊สู้ไม่ถอยทั้งหลาย หรือผู้มีอาชีพทางนักบริหาร เป็นผู้นำของปวงชนมาก ๆ การที่องค์พระมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ผู้สร้างจึงน่าจะมีเจตนาให้ใช้ แขวนเดี่ยว อันเป็นลักษณะของ "ผู้นำ" อย่างแท้จริง และมั่นใจในพุทธคุณทำนองว่า "ใช้องค์เดียวก็เหลือคุ้มแล้ว พุทธคุณจะต้องเลิศล้ำจริง ๆ " องค์พระมี ซุ้มประดับ อย่างอลังการ แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ และเพียบพร้อมความอุดมสมบูรณ์ในด้านโภคทรัพย์ แสดงว่าเป็นพระที่สร้างในสมัยที่บ้านเมืองอยู่ดีกินดี มีความอุดมสมบูรณ์พูนผล มีความเจริญรุ่งเรืองมาก สิ่งนี้เป็นการหนุนเนื่องพุทธคุณทางด้านความร่ำรวย โชคลาภ และความพรั่งพร้อมในทรัพย์สินเงินทอง อีกทางหนึ่งด้วย การออกแบบอย่างวิจิตรอลังการของ พระยอดขุนพลชากังราว ทำให้เข้าใจได้ว่า ผู้ออกแบบต้องเป็น "ช่างหลวง" ในราชสำนัก เพราะถ้าหากเป็น "ช่างชาวบ้าน" ความวิจิตรบรรจงจะไม่มี เป็นการออกแบบหยาบ ๆ และเมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้สร้างพระพิมพ์นี้จะต้องเป็น พระมหากษัตริย์ อย่างแน่นอน และที่สำคัญ พระองค์ใหญ่ๆ อย่างนี้ราคาจะไม่แพงมากนัก อยู่ในหลักหมื่นต้นๆ เท่านั้น ถ้าเทียบกับอายุการสร้างแล้ว คุ้มค่ามาก ถ้าหากไม่เกี่ยงว่า องค์พระมีขนาดใหญ่ก็น่าจะลองหามาใช้แขวนเดี่ยวสักองค์หนึ่ง รับรองว่า "ความเป็นชายชาตรีจะมีอยู่อย่างครบถ้วนในตัวเจ้าของพระองค์นี้" (ข้อมูลจาก นสพ. คมชัดลึก)  | 
							|||||||||||||||
									ราคา
								  | 
								xx,xxx | |||||||||||||||
									เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ
								  | 
								0813116011 | |||||||||||||||
										ID LINE
									  | 
									0818306399 | |||||||||||||||
									จำนวนการเข้าชม
								  | 
								12,789 ครั้ง | |||||||||||||||
									บัญชีธนาคารที่ใช้ยืนยันตัวตน
								  | 
								
						 ธนาคารกรุงเทพ / 244-0-006xx-x 
									 | 
							|||||||||||||||
แสดงความคิดเห็น  | ||||||||||||||||
| 
					 | ||||||||||||||||